เครื่องวิเคราะห์เคมีไฟฟ้า
เครื่อง Potentiostat/Galvanostat สำหรับงานวิจัยและทดสอบทางเคมีไฟฟ้า
ไม่ว่าความต้องการอะไร – เรามี potentiostat และ galvanostat ที่ใช่สำหรับคุณ
เรามีเครื่องวิเคราะห์ทางเคมีไฟฟ้าที่หลากหลายระดับตั้งแต่ขนาดเล็กไปที่เป็นโมดูลาร์ แบบ single-channel จนถึง multi-channel
ใช้ filter เพื่อค้นหาเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับคุณ
Why Metrohm potentiostats? – We are the global market leader
Metrohm ได้สร้างมาตรฐานเครื่องมือวัดทางเคมีไฟฟ้าเอาไว้มากกว่า 30 ปี เราเป็นผู้ผลิตรายแรกที่มีเครื่อง potentiostat/galvanostat แบบดิจิตัลซึ่งควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ เรายังคงพัฒนาต่อไปไม่หยุด ในปัจจุบันเรามีเครื่องวิเคราะห์ทางเคมีไฟฟ้าที่หลากหลายระดับตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงรุ่นที่เป็นโมดูลาร์ แบบsingle channel จนถึง multichannel เลือกได้ทั้งตั้งโต๊ะและเคลื่อนที่ได้
- ความน่าเชื่อถือ: เครื่องมือของเราผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากกระบวนการผลิต,โดยค่าเฉลี่ยสามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหาใน 5 ปีแรกหลังการติดตั้ง
- การบริการที่ยอดเยี่ยม: เรามอบระยะเวลารับประกันเครื่องให้ 3 ปี โดยมีทีมบริการครอบคลุมกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ด้วยเวลาการให้บริการที่รวดเร็วน้อยกว่า 48 ชั่วโมง
เพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้งานเครื่องมือ ของเราได้คุ้มค่า เรามีข้อมูลมากมาย เพื่อช่วยเหลือโดยครอบคลุมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเคมีไฟฟ้า แบตเตอรี่ การกัดกร่อน ชีววิทยาศาสตร์
หากคุณสนใจเทคนิคอื่นๆ เช่น Cyclic voltametry และ Electrochemical impedance spectroscopy เรา ก็มีข้อมูลเพื่อสนับสนุนคุณ
Potentiostats and galvanostats – FAQs
เครื่องเคมีไฟฟ้าคืออะไร? ความแตกต่างระหว่าง Potentiostat และ Galvanostat?
potentiostat คือเครื่องมือที่ความต่างศักย์ ระหว่างขั้วไฟฟ้าทำงานกับขั้วไฟฟ้าอ้างอิง โดยวัดกระแสที่ไหลระหว่างขั้วไฟฟ้าช่วย เครื่องPotentiostat จะควบคุมความต่างศักย์ ที่แม่นยำเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ การกัดกร่อน การชุบเคลือบ แบตเตอรี่และ ตัวตรวจวัด
galvanostat ในทางตรงกันข้ามกันคือควบคุม กระแสแทนความต่างศักย์
เครื่องมือ Metrohm ของเราจะรวมทั้ง Potentiostat และ Galvanostat เข้าด้วยกัน ลูกค้าสามารถสลับ การใช้งานระหว่างสองรูปแบบได้ตามการทำงาน
เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
Blog: Fast and fundamental – Influences on reliable electrochemical measurements
Galvanostatic vs. potentiostatic mode
เมื่อใดที่ควรเลือกใช้ potentiostatic mode:
- เมื่อศึกษาปฏิกิริยารีดอกซ์ การกัดกร่อน , หรือต้องการรักษาความต่างศักย์คงที่
- เมื่อวิเคราะห์ Cyclic voltametry หรือ เทคนิคอื่นๆที่กวาดความต่างศักย์ในช่วง ที่กำหนด
- เมื่อศึกษาปฏิกิริยาทางเคมีไฟฟ้า กลไกการเกิด ปฏิกิริยาที่ผิวขั้วไฟฟ้า
Application note: Potentiostatic intermittent titration technique (PITT)
Application note: ASTM G5 – Potentiodynamic Anodic Polarization Measurements
Application note: Cyclic Potentiodynamic Polarization Measurements as per ASTM G61
เมื่อใดที่ควรเลือกใช้ galvanostatic mode:
- เมื่อต้องการควบคุมกระแสคงที่เพื่อทำการชุบเคลือบ
- เมื่อทำการศึกษาฟิวเซลล์ แบตเตอรี่หรือเซลเคมีไฟฟ้า ที่ต้องการการป้อนกระแสที่แม่นยำ
- เมื่อต้องการวัด electrochemical impedance spectroscopy หรือเทคนิคอื่นที่วัดสัญญานไฟฟ้าของระบบ
Application note: Galvanostatic charge-discharge of a Li-ion battery with Autolab
Application note: ASTM G100 – Cyclic Galvanostaircase Polarization
Application note: Galvanostatic Intermittent Titration Technique (GITT)
When to use grounded mode and floating mode in a potentiostat? What is selectable floating?
เครื่อง potentiostat ในโหมด grounded mode จะไม่มีขั้วไฟฟ้าใดต่อโดยตรง กับสายดิน การเชื่อมต่อแบบนี้ นิยมใช้ในห้องปฏิบัติการ ในหลายแบบ ทั้งการกัดกร่อน แบตเตอรี่ หากเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ อื่นเราสามารถใช้ตู้ฟาราเดย์เพื่อต่อสายดินได้
โหมด floating จะถูกใช้งานใน 3 รูปแบบ:
- เมื่อขั้วไฟฟ้าทำงานต่อตรงกับสายดิน ใช้กับงานการกัดกร่อนในสิ่งแวดล้อม การวิเคราะห์ไฮโดรเจนที่ซึมผ่าน กล้องอิเลกโทรนิคไมโครสโคป
- เมื่อขั้วไฟฟ้าช่วยต่อเข้ากับสายดิน ใช้กับงานการสังเคราะห์ทางชีวภาพ
- เมื่อทั้งระบบเชื่อมต่อกับสายดิน เช่น Tribocorrosion
หากคุณทำการทดลองข้างต้น จำเป็นต้องใช้งานด้วย โหมด Floating
Due to the wide variation of experimental requirements and kinds of electrochemical cells, the use of an electrochemical instrument with a floating feature (such as VIONIC or µStat-i multiX among others) brings additional versatility to the user.
Grounded หรือ floating mode?
เราจะเลือกเครื่อง potentiostat ที่เหมาะสมได้อย่างไร?
ขั้นตอนที่ 1: ช่วงความต่างศักย์และกระแสที่ใช้
พิจารณาจากงานที่ทำการวิเคราะห์ว่าใช้ความต่างศักย์และกระแสเป็นเท่าไร
- ความต้องการระดับเริ่มต้น: Compliance voltage สูงสุดถึง ± 10 V, กระแสสูงสุดถึง ± 100 mA: PGSTAT101, Autolab IMP, μStat-i 400 – ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบาและราคาจับต้องได้
- ความต้องการระดับกลาง: Compliance voltage สูงสุดถึง ± 20 กระแสสูงสุดถึง ± 400 mA: PGSTAT204 – ขนาดเล็กและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องได้ เช่น EIS
- ความต้องการระดับสูง: Compliance voltage สูงสุดถึง ± 30 Vกระแสสูงสุดถึง ±2 A (เพิ่มประสิทธิภาพได้) : PGSTAT302N – สามารถปรับเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องได้ตามความต้องการ
- ความต้องการระดับสูงสุด: Compliance voltage สูงสุดถึง ± 50 V กระแสสูงสุดถึง ± 6 A: VIONIC powered by INTELLO – ประสิทธิภาพเครื่องมือที่สูงที่สุด
Criteria 2: ต้องการวัดหลายการทดลองในเวลาเดียวกันหรือไม่?
หากคุณต้องการวัดการทดลองหลายการทดลองในเวลาเดียวกันคุณจะต้องใช้เครื่องมือแบบ multiple channels
Criteria 3: พกพาได้
เครื่อง potentiostat ที่เคลื่อนย้ายได้ สามารถนำไปวิเคราะห์ที่หน้างานได้ Metrohm มีทั้งแบบ single-channel และ multi-channel สำหรับ potentiostats แบบพกพา
ขั้นตอนที่ 4: สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องมืออื่นๆ หรือ เครื่องวิเคราะห์ทางสเปกโตรสโคปีได้ ในระบบเดียวกัน
เมื่อคุณต้องการเชื่อมเครื่องวิเคราะห์ทางเคมีไฟฟ้า เข้ากับเครื่องวิเคราะห์เชิงแสง โดยมีสองเครื่องมือ ใช้งานได้ทั้งแยกกันและใช้งานเป็นระบบเดียวกัน คุณลองพิจารณาระบบการเชื่อมเครื่องมือของเรา
hyphenated solution การเชื่อมต่อเครื่องมือสองชนิดยังเชื่อมต่อได้เช่น UV-Vis หรือ Raman spectroscopy และ Metrohm potentiostat. เครื่อง potentiostat และ galvanostat สามารถซื้อแยกกันกับเครื่องมืออื่นๆได้ กรุณาติดต่อตัวแทนจำหน่ายของเรา เพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติม สัมผัสประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของเครื่องมือ ทั้งตัวเครื่องมือและโปรแกรมควบคุม
ไปที่ hyphenated spectroelectrochemistry instruments
รวมไปถึงคุณสามารถที่จะรวมองค์ประกอบต่างๆทั้งเครื่องมือวิเคราะห์ ทางเคมีไฟฟ้า, สเปกโตรมิเตอร์ และแหล่งกำเนิดแสง เข้าด้วยกันเป็นเครื่องเดียว พร้อมกับโปรแกรมที่สามารถควบคุมทุกอย่าง ช่วงแสงที่ใช้ได้ จะมีทั้ง UV-VIS, NIR และรามาน ทำให้ได้เครื่องที่สะดวกสบาย ควบคุมการใช้งานด้วยโปรแกรมเดียว